ความดันโลหิตตัวบน เป็นแรงดันโลหิตขณะที่หัวใจบีบตัว 2. ความดันโลหิตตัวล่าง เป็นแรงดันโลหิตขณะที่หัวใจคลายตัว สาเหตุความดันโลหิตสูง แบ่งเป็น 2 ชนิด 1. ไม่ทราบสาเหตุ พบได้ 90% ส่วนใหญ่มีปัจจัยเสี่ยงที่น่าจะเป็นสาเหตุ ได้แก่ 1. 1 กรรมพันธุ์ 1. 2 เชื้อชาติ 1. 3 ความเครียด 1. 4 ขาดการออกกำลังกาย 1. 5 ความอ้วน 1. 6 สูบบุหรี่ 1. 7 การดื่มสุรา 2. ทราบสาเหตุ พบได้ 10% 2. 1 โรคไตเสื่อม, ไตวาย 2. 2 เนื้องอกที่ต่อมหมวกไต 2. 3 มีพยาธิสภาพในสมอง 2. 4 ภาวะตั้งครรภ์เป็นพิษ 2. 5 ยาบางชนิด ความดันโลหิตสูงมีอันตรายอย่างไร ถ้าปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นอยู่นาน โดยไม่ได้รับการรักษาจะทำให้หลอดเลือดแดงเสื่อมสภาพ แข็งตัว, ตีบตัน หรือแตก ทำให้เกิดโรคกับอวัยวะต่างๆ เช่น • หัวใจ เกิดกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว หัวใจโตขึ้น, เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด, ภาวะ หัวใจล้มเหลว • สมอง เกิดหลอดเลือดในสมองแตก, เป็นอัมพาตหรือเสียชีวิต • ไต เกิดภาวะไตวาย • ตา ทำให้หลอดเลือดตาตีบ, แตก เกิดเลือดออกในตา ทำให้ตามัว ตามองไม่เห็นทั้งชั่วคราวและถาวรได้ ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง และไม่ได้รับการรักษาจะเสียชีวิตจาก 1. หัวใจวาย 60-70% 2.
ผลต่อหัวใจและหลอดเลือด ส่งเสริมให้ผนังหลอดเลือดแข็งและหนาตัว และเร่งให้มีการเกาะของสารไขมันที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น มีผลให้เกิด -หัวใจโต -กล้ามเนื้อหัวใจตายและมีอาการเจ็บหน้าอกสาเหตุจากเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลง -หัวใจข้างซ้ายล้มเหลว เกิดขึ้นภายหลังจากแรงต้านทานของหลอดเลือดสูงนานๆทำให้กล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น และมีความต้องการใช้ออกชิเจนเพิ่มขึ้น -Dissecting aortic aneurysm ผลจากการที่มีความดันโลหิตสูงนานๆจะไปทำลายผนังหลอดเลือด Aorta และเกิดภาวะโป่งพองตามมา 2. ผลต่อสมอง ทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตันหรือแตกได้ ทำให้เกิด -Strokes ซึ่งมีกลไกการเกิดจาก 1. Multiple microaneurysms มีการโป่งพองของหลอดเลือดทั่วๆไปในสมองและทำให้มีการแตกของหลอดเลือดในสมองได้ 2. สมองขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราวหรือเชลล์สมองตาย ( Transient Ischemic attacks or Cerebral Infarction) ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการแข็งตัวของหลอดเลือด -Hypertensive Encephalopathy พบว่าความดันของหลอดเลือดแดงจะสูงขึ้นชั่วคราว ทำให้มีอาการสับสน ชัก และหมดสติ 3. ผลต่อไต - เกิดภาวะไตวายซึ่งเป็นผลมาจากมีการตีบแข็งของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตและหลอดเลือดแดงฝอยที่ไปเลี้ยงไตมีการตายเฉพาะที่ 4.
พยาธิสรีรวิทยาของภาวะความดันโลหิตสูงไม่สามารถอธิบายกลไกใดกลไกหนึ่งได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามภาวะนี้เป็นความผิดปกติของการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้(MAP=COxTPR)ฉะนั้นปัจจัยใดก็ตามที่มีผลกระทบกับความดันโลหิตจะเกี่ยวข้องกับปริมาณเลือดที่ถูกบีบตัวออกจากหัวใจต่อนาที และความต้านทานปลายทางของหลอดเลือดเป็นสำคัญ ฉะนั้นกลไกการเกิดความดันโลหิตสูงต้องอธิบสยตามแต่ละสาเหตุ ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้ 1. ค่าของ Cardiac output และความต้านทานรวมของหลอดเลือดอย่างใดอย่างหนึ่งสูงกว่าปกติ 2. ระดับ Renin ในเลือดสูง มีผลให้ Angiotensin II สูง 3. การเพิ่มการหลั่งของ Aldosterone 4. การทำหน้าที่ของระบบประสาทซิมพาเทติคมากกว่าปกติ 5. ความเครัยดทางจิตใจที่เป็นระยะเวลานาน 6. การบริโภคอาหารที่มีเกลือมาก 7. การขาดสารอาหารที่ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว(vasodilator) เช่น prostaglandins kinins เป็นต้น 8. ภาวะของโรคที่มีผลกระทบทำให้เกิดการทำหน้าที่ของระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ 9.
สุทธิพงศ์ ทัศนียพันธุ์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ
ปรอท ความดันโลหิตสูงสำหรับคนอายุน้อย 140/90 มม. ปรอท ความดันโลหิตสูงสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว 140/90 มม.